1. เลือกให้เหมาะสม
วิธีการเลือกครีมกันแดดนั้นควรเลือกครีมกันแดดที่สามารถกันได้ทั้ง UVA ที่ทำให้เกิดริ้วรอย และ UVB ที่เป็นตัวการทำให้ผิวคล้ำ SPF ที่เราเห็นเขียนข้างผลิตภัณฑ์บ่อยๆ ก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ด้วยเหมือนกัน โดย SPF หรือ Sun Protection Filter เป็นค่าบ่งบอกการป้องกันรังสี UVB แต่ละตัวก็จะมีค่าต่างกันออกไป สำหรับใครเน้นใช้ชีวิตอยู่ในร่มแนะนำให้ใช้ที่ 15 – 30 ก็พอ ส่วนใครที่คิดว่าวันนี้ต้องเจอศึกหนักกลางสมรภูมิโล่งแจ้ง แนะนำให้ใช้ที่ 30 – 50 ได้เลย
2. ข้อนิ้วชี้หรือเหรียญ 10 บาท
ทากันแดดที่ตัวยังพอได้ แต่เมื่อเริ่มทาบริเวณใบหน้าบางคนก็อาจสงสัยว่าต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่ เพราะการทากันแดดหากไม่ใช้ปริมาณที่เพียงพอ ครีมกันแดดก็ทำงานได้ไม่เต็มที่เหมือนกัน เพื่อให้ได้ปริมาณ SPF ตามที่เขียนไว้ตามหน้าขวด วิธีที่ดีที่สุดคือควรทาที่ปริมาณ 2 ข้อนิ้วชี้ 1 เหรียญ 10 บาท โดยถ้าเนื้อผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นสูตรครีม ให้ทาความยาวเท่ากับ 2 ข้อนิ้วชี้ และหากเป็นสูตรน้ำให้บีบลงฝ่ามือมีความกว้างเท่าเหรียญ 10 บาท 1 เหรียญ สูตรนี้เป็นปริมาณที่บริเวณใบหน้าอย่างเดียวนะไม่ได้รวมบริเวณคอแต่อย่างใด
3. ทาก่อนออกแดด 15 นาที
หลังจากทาครีมกันแดดเสร็จแล้ว อย่าเพิ่งรีบร้อนออกจากบ้านก่อน ควรรออย่างน้อย 15 – 30 นาที เพื่อให้เนื้อครีมเซตตัวให้ติดกับผิวมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะได้ไม่ไหลไปพร้อมกับเหงื่อหรือน้ำ ที่จะลดประสิทธิภาพของตัวกันแดดที่เราใช้ เพราะฉะนั้นก่อนจะออกไปไหนต้องกะเวลาทาให้ถูกด้วย
4. เติมทุกๆ 2 ชั่วโมง
แดดที่เปรี้ยงปร้าง และเหงื่อเป็นตัวการที่ทำให้ประสิทธิภาพของครีมกันแดดลดลง เมื่อออกไปไหนอย่าลืมพกหลอดเล็กๆไว้เติมระหว่างวันด้วย ถ้าไม่ได้เจอแดดมากๆ แนะนำให้ทาในช่วงกลางวันเป็นอย่างน้อย แต่ถ้าหากอยากได้ความมั่นใจจริงๆ ก็ควรทาทุกๆ 2 ชั่วโมงเพื่อให้ผิวของเราได้รับเกราะป้องกันอย่างเต็มที่ และอย่าลืมล้างมือทุกครั้งก่อนทาครีมกันแดดเพื่อลดการเกิดสิวจากสิ่งสกปรก หรือสำหรับสาวๆ ที่แต่งหน้าก็ใช้สเปรย์น้ำแร่พรมทั่วบริเวณใบหน้าแล้วใช้ทิชชู่ซับเอาความมันและฝุ่นออกก่อนก็เป็นตัวช่วยที่ดี
ครีมกันแดด my dear mom | ครีม กันแดด ทา หน้า | ครีมกันแดดออร์แกนิค | ออร์แกนิค | ออ แก นิก
ทาครีมกันแดด ทาหน้า
ทาครีมกันแดด ทาหน้า